จากการทำงานตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ดิฉันได้รับการสอนน้องถึง 3 รุ่น ซึ่งเรื่องที่ฉันได้สอนได้แก่ เรื่อง
โรคหัวใจและหลอดเลือด
แยกเป็นผู้ป่วย Stroke
และ ผู้ป่วย CHF , การแยกประเภทผู้ป่วย,
การลงบันทึกกิจกรรมการพยาบาล ซึ่งในปีแรก ๆ
ดิฉันก็ไม่ได้เก่งและมีความชำนาญมากนัก
เป็นแค่ผู้ช่วยคุณพรพิมล ธนะบุตร
ที่เป็นรุ่นพี่ของดิฉัน
และเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว
แต่หลังจากที่คุณพรพิมลย้ายไป ดิฉันก็ได้รับหน้าที่อย่างเต็มตัว ดิฉันทำงานดังกล่าว 2 ปี โดยไม่มีผู้ช่วย
ลองผิดลองถูกและปรึกษากับหัวหน้าและทีมการพยาบาลในหอผู้ป่วยใน 1 ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยและกระตุ้นให้ดิฉันทำงานนี้ได้ และหลังจากนั้นปีที่ 3 ฉันก็ได้น้องใหม่มาช่วย 1 คน คือ
น้องศิริพร ชรินทร์ ฉันดีใจมากที่ตอนนี้ฉันมีผู้ช่วยแล้ว โดยไม่ต้องทำงานโดดเดี่ยวอีกต่อไป ซึ่งน้องเป็นคนขยัน มีความมุ่งมั่นในการทำงาน รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย แบ่งเบาภาระงานของฉันได้มาก ฉันรู้สึกอบอุ่นใจ ถ้าหากฉันหยุดงานหรือลาพักผ่อน
อย่างน้อยน้องก็สามารถเป็นตัวแทนที่จะทำงานดูแลผู้ป่วยและดูแลการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุม
เรื่องแรกที่ฉันสอน คือ
การทำ D/C Plan ผู้ป่วย
Stroke เนื่องจากหอผู้ป่วยใน 1 ต้องรับผู้ป่วยหนัก,
ผู้ป่วยสูงอายุซึ่งมีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรค,
ผู้ป่วยที่กลับมา หลังจาก Refer มาจากโรงพยาบาลเลย ดังนั้นก็แน่อยู่แล้วที่ตึกของดิฉันจะต้องมีผู้ป่วย Storke มา Admit
ซึ่งต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 4-5
วัน
จนจำหน่าย กลับบ้าน พยาบาลหอผู้ป่วยใน
1 ทุกคนรู้ว่าต้องประเมินการทำ D/C
Plan Storke ไว้
ให้ดิฉันเพื่อประเมินและวางแผนการจำหน่าย มีการลงข้อมูลบางส่วนให้ และส่วนที่พยาบาลไม่ชอบลงข้อมูลคือ ด้านความสามารถตามดัชนีบาร์เธอ เอดีแอล (Barthel ADL Indey)
และแบบประเมิน NIHSS
(The National Institute of Health Stroke
Scale (0-42) ) ซึ่งชื่อหัวข้อก็น่ากลัวแล้ว
แถมในใบประเมินทุกตัวก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งคนที่ชอบประเมินให้ฉันคือ พญ.ทิพพาวดี สืบนุการณ์
ส่วนน้องใหม่ที่สอนก็จะทำในช่วงแรก
แต่หลังจากนั้นก็ว่างเหมือนเดิม
จะทำบ้าง Barthel
ADL Indey แต่ปีนี้ดิฉันได้ทำแบบประเมิน NHISS เป็นภาษาไทยแล้ว ก็หวังว่าพยาบาลทุกคนจะทำแบบประเมินให้ และกรอกข้อมูลลงใน D/C
Plan Stroke ให้ดิฉัน อย่างน้อยน้องศิริพร คนหนึ่งที่ต้องช่วยทำแน่ๆ
ส่วนเรื่องที่สองคือ D/C
Plan CHF อย่างน้อยหอผู้ป่วยใน
1 ต้องมีผู้ป่วย Admit 2-3 คน
/ เดือน เรื่องนี้ไม่ค่อยจะมีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่ง่าย เป็นการประเมิน และค้นปัญหาของผู้ป่วย ปัญหาส่วนมากของผู้ป่วยก็คือการกินอาหารที่มีรสเค็ม และการเติมผงชูรสในอาหาร ส่วนใหญ่ผู้ป่วย
และญาติก็จะทราบการดูแลตนเองแต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม
และส่วนที่ทุกคนจะไม่ลงข้อมูลอีกส่วนหนึ่งคือ การให้ความรู้เรื่องยา คงคิดว่าเป็นหน้าที่ของเภสัชกร ที่จะต้องเป็นผู้ให้ความรู้แต่เภสัชกร จะเข้ามาดูผู้ป่วยในรายที่มีปัญหา
หรือแพทย์ Consult เท่านั้น ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเรา
อย่างน้อยก็ช่วยเขียนชื่อยาให้ดิฉันก็ยังดี
แต่ตอนนี้ดิฉันได้จัดหาเอกสารเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด (จัดทำโดยคุณปัญญาภรณ์)
มาไว้ที่ตึกแล้ว อย่างน้อยก็มีเจ้าหน้าที่นำไปให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วย และญาติได้
ในเอกสารจะมีชื่อยา, ข้อบ่งใช้,
อาการข้างเคียง, ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาที่ใช้บ่อย และมีใช้ในโรงพยาบาลของเรา ส่วนการแนะนำของดิฉันส่วนใหญ่จะแนะนำว่าเป็นยาอะไร และยาดังกล่าว
จะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง เช่น
ยา Furosemide เป็นยาขับปัสสาวะ,
ลดบวม
อาการข้างเคียง คือ
ปัสสาวะบ่อย ปวดศรีษะ,
อ่อนเพลีย, ใจสั่น ฯลฯ ซึ่งผู้ป่วย และญาติต้องทราบข้อมูลนี้เพื่อการดูแลตนเองที่ถูกต้อง
ส่วนเรื่องสุดท้าย
คือการสอนการแยกประเภทผู้ป่วย
และการลงบันทึกกิจกรรมการพยาบาล
การแยกประเภทผู้ป่วย
เราก็จะเน้นที่ผู้ป่วยหนัก 4a
คือผู้ป่วยหลังผ่าตัด,
ผู้ป่วยที่ให้ยา Dopamine , ผู้ป่วยที่ต้อง
Obs. N/S และ V/S ทุก
1-2 ชั่วโมง,
ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะ Shock ทำให้เห็นภาระงานของเรา รองลงมาก็ประเภท 3a คือผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยที่
On O2 Cannula หรือ
On Mask ตลอดเวลา,
ผู้ป่วย On ICD, ผู้ป่วยหลัง
off Dopamine ,
ผู้ป่วยที่มีภาวะ Hypo- Hyperglycemia บ่อย
ๆ , ผู้ป่วยที่ UGIH
ต้องให้เลือดและเจาะ Hct ทุก
6 ชั่วโมง
ฯลฯ และผู้ป่วยประเภท 2 กับ
1 ก็จะน้อยมาก เพราะถือว่าเป็นผู้ป่วยที่ไม่ต้องการดูแลอะไรมาก พร้อมที่จะ D/C ได้
ส่วนผู้ป่วยประเภท 1 D
ของดิฉัน คือ
ผู้ป่วยที่ของลากลับบ้าน หรือขอไป F/U
ที่โรงพยาบาลเลย เพราะเราไม่ต้องดูแลผู้ป่วยเลย
ส่วนการลงบันทึกกิจกรรมการพยาบาลถือว่าเป็นเรื่องที่ง่าย ขึ้นอยู่กับน้องใหม่ หรือเจ้าหน้าที่จะลงข้อมูลกันหรือไม่ ดิฉันจะให้น้องลงกิจกรรมตอนสอนน้องช่วงแรก ๆ
จะมีปัญหาบ้างก็คือ ไม่ลงกิจกรรมนั้นไว้ก่อน ทำให้ Loss
กิจกรรมบางอย่างที่ทำหลังจากลงบันทึกส่วนพี่เก่าที่เจอเป็นประจำ คือ
ลืมลงบันทึกกิจกรรม
เวรใดเวรหนึ่ง
หรือลืมลงกิจกรรมบางอย่าง
ดิฉันก็จะตามหัวหน้าเวรนั้นมาลงให้
เพราะกิจกรรมการพยาบาลถือเป็นหน้าที่ Incharge ในเวรนั้น ๆ
ที่จะต้องลงบันทึก นอกจาก Incharge มอบหมายให้คนใดคนหนึ่งลง ส่วนน้องใหม่ก็ต้องรอเป็น Incharge ก่อนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น