วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พยาบาลวิชาชีพ


          เข้าทำงานที่หอผู้ป่วยใน  1  ต้นปี  2549  ประสบการณ์ทำงานจากการเรียนในชั้นเรียนก็เป็นเพียงพื้นฐานในการทำงานของวิชาชีพพยาบาลเท่านั้น  เพราะการทำงานจริงกับการเรียนและการฝึกงานมันแตกต่างกันมาก  เข้ามาทำงานช่วงแรกก็รู้สึกเครียดไม่รู้จะทำงานยังไง  ทำถูกหรือเปล่า  แต่ก็มีรุ่นพี่คอยแนะนำ  คอยบอกแนวทางในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพ  บางอย่างก็สร้างพลิกแพลงได้ตามบริบทของโรงพยาบาลแต่ต้องอยู่ในความถูกต้องและตามมาตรฐานวิชาชีพพยาบาล  หลังจากนั้นทำงานได้  1-2  ปี  ก็มีรุ่นน้องและพี่ที่ย้ายมาทำงานที่หอผู้ป่วยใน  1 ของเรา    ให้ดิฉันคอยสอนงานเช่นกันเป็นรุ่นๆ  ไป  ก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน  เพราะต้องเป็นคนถ่ายทอดความรู้สึกตอนนั้นที่ถ่ายทอด คือ  ไม่รู้ว่าเราถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคต่างๆ  ในการทำงานถูกต้องตามมาตรฐานที่วางไว้เสมอ  ก่อนจะทำอะไรกับคนไข้ไม่แน่ใจว่าทำงานนึกถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ  และเอาใจคนไข้มาใส่ใจเรา
                งานที่ได้รับมอบหมายเป็นหลักช่วงแรก  คือ  งานการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย  เป็นงานใหม่สำหรับดิฉันมากต้องอ่านหนังสือมาคอยถ่ายทอดและศึกษาข้อมูลต่างๆ  เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน  และรู้สึกว่าวัยวุฒิของตัวเองไม่เหมาะสมและมันเป็นเรื่องยากมากกับการที่เราจะทำให้ใครสักคนตายอย่างสงบ  เพราะต้องใช้ศาสตร์และศิลป์หลายอย่างประกอบกัน  แต่ก็จำเป็นต้องทำและรับผิดชอบเพราะเป็นหน้าที่ทำและถ่ายทอดประมาณกลางปี  52  พี่ขวัญ  (กันตพัฒน์  อภิญญาฐิติพงษ์)  ได้ย้ายเข้ามาทำงานในหอผู้ป่วยใน  1  ซึ่งก็ได้รับการถ่ายทอดการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย  คราวนี้แตกต่างกว่าทุกครั้ง  เป็นการถ่ายทอดสู่รุ่นพี่รู้สึกประทับใจ  เพราะว่าพี่ขวัญมีพื้นฐานด้านนี้อยู่แล้ว  เป็นคนธรรมะทำโมอยู่แล้ว  พี่เขาจะเข้าใจง่ายและรู้สึกว่าทำงานได้ดีกว่าเรา  และเหมาะสมกว่าทั้งคุณสมบัติ  องค์ความรู้  วัยวุฒิ  พี่ขวัญทำได้ดี  ซึ่งทำให้การถ่ายทอดงานครั้งนี้และได้ทำมาเรื่อยๆ  หัวหน้าได้มอบหมายงานนี้ให้  พี่ขวัญรับผิดชอบโดยตรงในปีงบ  55  ก็รู้สึกดีที่มีพี่ขวัญคอยรับผิดชอบงานตรงกับคน  คนตรงกับงาน  ทำให้การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นไปด้วยดี  และมีการพัฒนาเป็นระยะๆ

พยาบาลวิชาชีพ


ประสบการณ์ของเราต้องเล่าต่อ  ดิฉันทำงานที่  IPD1  ประมาณ  2  ปี  ได้รับมอบหมายให้ทำงานเก็บตัวชี้วัด  เรื่องโรคที่ป้องกันได้  5  โรค  งานของดิฉันอาจจะดูง่ายและไม่ค่อยน่าสนใจ แต่จริงๆ  แล้วงานนี้ทำให้ดิฉันสนุกกับการทำงานทำให้ต้องอธิบายในโรคง่ายๆแต่ไม่ง่ายสำหรับคนป่วยใน  IPD1  ของเราซึ่งบางโรคชาวบ้านยังไม่รู้ถึงวิธีการดูแลตัวเองเลย  สิ่งง่ายๆ  เหล่านี้ดูมีค่าและมีความหมายสำหรับดิฉันและคนไข้หลายๆ  คน
ประสบการณ์ดีๆ  เหล่านี้  แน่นอนมันต้องเผยแพร่ซึ่งปีนี้ดิฉันได้เป็นรุ่นพี่แล้ว  น้องก้อนและน้องจ้อย  พยาบาลน้องใหม่ที่มาพร้อมกับสมองใหม่เอี่ยม  ขอรับสิ่งใหม่ๆ  กับการทำงานครั้งแรกของพวกเขา  ดิฉันต้องสอนรุ่นน้องทั้ง  2  คน  ให้รู้จักงานเรื่องการเก็บตัวชี้วัดที่ดิฉันรับผิดชอบ  น้องทั้ง  2   ต้องเรียนรู้การเก็บงานหลายๆ  เรื่องจากรุ่นพี่ทุกคนในตึกรวมทั้งของดิฉัน  น้องก้อนและน้องจ้อยตั้งใจฟังคำอธิบายวิธีการทำงานของดิฉันและตั้งใจที่จะลองสอนผู้ป่วย  ไม่น่าเชื่อเลยความตั้งใจสอนเรื่องง่ายๆ  ของดิฉันยังมีน้องทั้ง  2  คน  คอยให้ความสนใจ  ดิฉันภาคภูมิใจทุกครั้งที่เห็นน้องทั้ง  2  คนตั้งใจสอนอธิบายความรู้และวิธีการการดูแลตัวเอง  การให้สุขศึกษากับคนไข้ในโรคที่สามารถป้องกันได้  และคนไข้ที่ตั้งใจฟังรวมทั้งสอบถามข้อสงสัย  ทำให้อัตราการ  Re-admit ด้วยโรคที่ป้องกันได้ลดลง จากจุดเล็กๆ ที่มีการให้สุขศึกษาโดยใช้แฟ้มความรู้  เราก็มีการเพิ่มบอร์ดความรู้  แผ่นพับและมีการทบทวนความรู้โดยการทำแบบทดสอบ และมีการเปิดเสียงตามสายในช่วงบ่ายของทุกวันในเรื่องโรคที่ป้องกันได้และโรคที่พบได้บ่อยที่เข้ามานอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
                หลังจากนี้เรื่องโรคที่ป้องกันได้คงเป็นเรื่องง่ายๆ  สำหรับผู้ป่วยเพราะมีพยาบาลคอยใส่ใจ  และให้คำแนะนำ  ถ้ามีเพียงดิฉันคนเดียวที่คอยดูแลในเรื่องนี้งานนี้ก็คงจะไม่สำเร็จ  น้องทั้ง  2  คนก็เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จ

วิชาชีพพยาบาล


           ย่างเข้าปีที่  4  แล้วของการทำงานที่  รพร.ด่านซ้าย  รู้สึกเร็วเหมือนกัน  หลังจากที่ฉันได้เข้ามาทำงานที่นี่  ฉันได้เรียนรู้การทำงานหลายๆ อย่างทั้งงานด้านปฏิบัติการพยาบาลและงานพัฒนาคุณภาพถูกสั่งสมและบ่มเพาะให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลคุณภาพแห่งนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด  ทุกวันนี้ฉันก็ยังรู้สึกดีใจและภูมิใจกับการทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้เสมอ
                ฉันได้เข้าทำงานใน  รพร.ด่านซ้าย  ตั้งแต่เรียนจบ  ปี  2550  จบมาแล้วไม่ได้ไปที่ไหนเลยกลับมาทำงานที่บ้านทันที  ครั้งแรกที่ได้รับรู้ว่าตนจะต้องกลับมาทำงานที่นี่  คิดว่า  รพ.นี้เป็นเหมือน  รพ.  ชุมชนแห่งอื่นเท่านั้นแต่พอฉันได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว  รพร. ทำงานที่นี่แล้ว  ฉับกลับพบว่าที่นี่เป็นมากกว่า  รพ.ชุมชนเสียอีก  เพราะทุกคนมุ่งมั่นทำงานกันมาก
                ฉันได้รับเข้าทำงานในหน่วยงานแผนกหอผู้ป่วยใน  1  ตึกที่ฉันอยู่ถูกสร้างมาตั้งแต่เริ่มแรกของการเป็น  รพ.  คงเก่าที่สุด  เหนื่อยที่สุดและมีจำนวนบุคลากรมากที่สุดเช่นกัน  งานที่หอผู้ป่วยในมีจำนวนค่อนข้างมาก  มีงานหลายอย่างที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกๆ  ปี  ทุกเดือน  และทุกๆ  วัน  ทำให้ฉันต้องได้รับการสอนจากรุ่นพี่ซึ่งมากด้วยประสบการณ์  จากการสอนของรุ่นพี่พร้อมๆ  กับการการเรียนรู้ด้วยตนเอง  ทำให้ฉันสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ  ในทุกขั้นตอน  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก  เพราะมันช่วยทำให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย  แต่ละปีจะมีการเขียนขอย้าย  และในปีนี้ก็มีเจ้าหน้าที่จากหอผู้ป่วยใน  1  ได้รับการโยกย้ายถึง  3  คน  น่าใจหายแต่ถึงอย่างไรก็ย่อมมีการรับบุคลากรเพิ่ม  ไม่นานนักก็มีน้องใหม่ร่วมทำงานอีก  3  คน  ฉันกลายเป็นรุ่นพี่ที่มีโอกาสได้สอนงานบางส่วนให้กับน้องๆ  ฉันได้มีโอกาสสอนน้องเกี่ยวกับเรื่องเบาหวาน  เป็นเรื่องที่เข้าใจค่อนข้างยากการคำนวณ  BMI  นับคาร์บ  นับปั้นข้าว  คำนวณพลังงานที่ผู้ป่วยควรจะได้รับรวมถึงอาหารแลกเปลี่ยนของผู้ป่วยเบาหวาน  สอนทั้งทฤษฎีและให้น้องปฏิบัติจริงต่อหน้า ซึ่งน้องก็ทำได้และช่วยเอาใจใส่เป็นอย่างดี  สอนเรื่องกิจกรรมการจัดรายการเสียงใจจากใจ  Nurse  ในหอผู้ป่วยจนขณะนี้น้องได้รับผิดชอบร่วมเปิดรายการด้วยแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายคือการจัดรายการเสียใจจากใจพยาบาลสู่ชุมชน ช่วงแรกๆ  พาน้องไปจัดรายการพอจะรับรู้ความรู้สึกของน้องได้ว่ากลัวแค่ไหน  เพราะเคยผ่านช่วงเวลานั้นมาก่อน  แต่จริงๆ  แล้วความกลัวเราสามารถเอาชนะมันได้ง่ายๆ  ขอแค่ไม่กลัวทำในสิ่งที่ผิดก็พอ  นอกจากนี้ฉันยังได้มีโอกาสสอนน้องเกี่ยวกับความพึงพอใจในหน่วยงาน และงานสารสนเทศการใช้โปรแกรม  HOSxP  อีกเล็กน้อย  ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวหรอกที่ได้สอนให้น้องได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ  เหล่านี้พี่ๆ  ทุกคนสอนให้น้องอีกหลายๆ  เรื่องเช่นกัน
                ฉันเชื่อว่าการได้สอนน้องในแต่ละเรื่องของการทำงานนี้จะส่งผลให้น้องมีพลัง  ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง  ได้ทำงานอยู่ในวิชาชีพของการทำงานบนความซื่อสัตย์  อดทน  เสียสละ  ต่อไปด้วยความภูมิใจ  และอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย  ร่วมกันสร้างพลังจากการทำงานในหน่วยงานและเติบโตเป็นบุคคลคุณภาพร่วมพัฒนา  รพ.ของเราต่อไป  หากแต่การสอนคนเพียงเท่านี้ไม่เพียงแต่สอนในเรื่องงานให้มีประสิทธิภาพเท่านั้น  แต่จะช่วยหล่อหลอมให้คนเป็นคนที่มีคุณภาพต่อไปอีกด้วย

คุณค่าวิชาชีพพยาบาล


คุณค่าวิชาชีพ.......พยาบาล

     ตลอดหลายปีของการทำงานที่ผ่านมา  มีเรื่องราวต่างๆ  เกิดขึ้นในชีวิตมากมาย  ทั้งเรื่องดีและไม่ดี  ประสบการณ์ต่างๆ  ในชีวิตที่ผ่านมาทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง  คือ  คุณค่าของการทำงานในวิชาชีพการพยาบาล  ในความรู้สึกของตนเองคิดเสมอว่าวิชาชีพการพยาบาลเป็นงานที่หนักต้องดูแลผู้ป่วย  อยู่กับความเป็นความตายของคน  ดังนั้น  เราต้องมีระเบียบ  วินัย  และมีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพและงานที่ทำ  และที่สำคัญคือ  ต้องตรงต่อเวลา  และต้องศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ  อยู่เสมอ  ซึ่งเป็นเรื่องยากพอควรสำหรับบางคนที่มีครอบครัว  ย้อนกลับไปตอนเป็นพยาบาลเทคนิคที่ต้องทำทุกอย่างเหมือนพยาบาลวิชาชีพ  ซึ่งบางอย่างไม่เคยเรียนไม่เคยฝึกปฏิบัติ  ก็จะมีรุ่นพี่คอยสอนและแนะนำซึ่งเป็นสิ่งดีๆ  ที่ถ่ายทอดต่อๆ  กันมา  อยู่มาวันหนึ่งต้องพัฒนาตนเองไปเป็นพยาบาลวิชาชีพโดยศึกษาต่อเนื่องแต่ต้องเรียนด้วยตนเอง  ทำงานไปด้วย  ไม่ได้ลงไปเรียนใน  Class  ที่มีเพื่อนๆ  ต่างถิ่น  มีอาจารย์มาสอนและฝึกประสบการณ์ในสถานพยาบาลหลายๆ  แห่ง  และฝึกเป็นเวลาหลายวันถึงเป็นเดือนเหมือนคนอื่นๆ  ทำให้ตนเองรู้สึกว่าคงมีความรู้และประสบการณ์ไม่เพียงพอที่จะสั่งสอนน้องๆ  ที่จบใหม่ไฟแรงที่เพียบพร้อมด้วยวิชาการเต็มร้อย  แต่สิ่งที่คิดว่าตนเองถ่ายทอดได้คงเป็นเพียงแค่เทคนิคเล็กๆ  น้อยๆ  หรือระเบียบปฏิบัติต่างๆ ในหน่วยงาน  การใช้อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ  และสิ่งหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลต่อจากพี่  คือ  การดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังซึ่งตนเองก็คิดว่าตัวเองยังไม่รู้อย่างลึกซึ้งพอที่จะสอนน้องได้ดี  ได้แต่แนะนำให้น้องๆ  ไปศึกษาเอง  น้องบางคนเรียนรู้และเข้าใจปฏิบัติได้เร็ว
                เรื่องพี่สอนน้องเป็นเรื่องดี  แต่ตัวเองไม่มีความมั่นใจที่จะสอนใครเลย  คิดว่าตนเองไม่มีศาสตร์และศิลป์ในการพูดหรือสื่อสาร  แต่ก็ประทับใจน้องๆ  ทุกคนที่ให้เกียรติและร่วมมือกันด้วยดีตลอดมา  และเมื่อน้องๆ  โตเป็นพี่แล้วมีรุ่นน้องจบมาใหม่  ก็จะได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องใหม่ต่อไป  และยินดีที่มีน้องมาช่วยแบ่งเบาภาระงาน  เพื่อพัฒนางานและวิชาชีพการพยาบาล